วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2564

5 สัตว์เทพเจ้า ตามความเชื่อของชาวจีน

หลังจากอ่านเรื่องราวความเชื่อของชาวจีนกันเกี่ยวกับการเชิดสิงโตและมังกรกันไปแล้ว คราวนี้เราลองมาทำความรู้จักกับ สัตว์เทพเจ้า ที่อยู่ในตำนานความเชื่อของชาวจีนกันบ้างดีกว่า ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในอารยะธรรมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงไม่แปลกที่จะมีตำนานเล่าขาลกันมาอยู่มากมาย ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เทพเจ้าต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสาขาที่น่าสนใจ พร้อมแล้วก็ ไปพบกับพวกเขากันเลย ๑. มังกร ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ หนึ่งในสัตว์ในตำนานที่ชาวจีนนับถือกันมากที่สุด ถึงแม้จะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับมังกรแตกต่างกันไปอยู่ทั่วโลก แต่มังกรของจีนก็ยังครองอัตลักษณ์และความน่าเกรงขามไว้ได้ไม่เสื่อมคลายมาหลายสหัสวรรษ ชาวจีนเชื่อว่า มังกร เป็นสัตว์ที่มากด้วยอิทธิฤทธิ์และทรงอำนาจมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งปวง มีอำนาจควบคุมฟ้าฝน และมหาสมุทร ด้วยความยิ่งใหญ่และสง่างาม มังกรจึงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิมาแต่โบราณ โดยเชื่อว่า มังกรมีความเป็นมิตรกับมนุษย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ลักษณะภายนอกของมังกร เกิดจากสัตว์ ๙ ชนิดผสมกัน ได้แก่ คอยาวเหมือนงู, เขามากจากกวาง, หัวมาจากอูฐ, ดวงตาจากปีศาจ, ท้องจากหอยแครงยักษ์, เกล็ดจากปลาตะเพียนหรือปลากะโห้, เล็บคมเหมือนอินทรีย์หรือเหยี่ยว, ฝ่าเท้าจากเสือ และหูจากวัว ภายในปากจะมีมุกอัคนี มุกวิเศษที่ใช้เรียกลมฝน และแสดงพลังอำนาจในทางอื่นๆ ได้ การนำสัญลักษณ์มังกรมาใช้นั้น หากเป็นของจักรพรรดิมังกรจะต้องมี ๕ เล็บ ของขุนนางจะมี ๔ เล็บ และสำหรับสามัญชนจะมีเพียง ๓ เล็บ ๒. กิเลน ถ้าเป็นตัวผู้จะเรียกว่า “กิ” ตัวเมียเรียกว่า “เลน” ชาวจีนเชื่อกันว่ากิเลนเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย และเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี ปรากฏให้เห็นที่ใดแสดงว่าจะมีผู้มีบุญมาปกครองบ้านเมืองนั้นให้อยู่เย็นเป็นสุข ลักษณะภายนอกของกิเลนเกิดจากการผสมผสานระหว่างสัตว์หลายชนิด โดยมีรูปร่างเหมือนกับกวางแต่มีเขาเดียว มีหางเหมือนวัว หัวเป็นมังกร และเท้ามีลักษณะเป็นกีบเหมือนม้า เชื่อว่ากิเลนนี้เอง ที่เป็นต้นแบบของม้านิลมังกร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของกวีเอกสุนทรภู่ ๓. เต่ามังกร อีกหนึ่งสัตว์เทพเจ้าที่คนไทยคุ้นเคย เต่ามังกร ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง อายุยืน และสุขภาพดี รวมไปถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและป้องกันภัยจากสิ่งชั่วร้าย ตามลักษณะทางกายภาพของเต่าที่มีอายุยืนยาว และมีกระดองอันแข็งแกร่งคอยคุ้มกันจากภยันตรายทั้งปวง และด้วยลักษณะทางกายภาพของเต่าที่อายุยืนและมีกระดองคอยคุ้มภัยนี้เอง เมื่อมารวมกับมังกรซึ่งถือเป็นสัตว์ที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งปวง จึงทำให้เต่ามังกรกลายเป็นหนึ่งในสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ๔ ชนิดตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ ซึ่งได้แก่ มังกร กิเลน เต่ามังกร และหงส์ โดยลักษณะของเต่ามังกรนั้น จะเหมือนกับเต่าทั่วไป แต่มีหัวเป็นมังกร เพราะเชื่อกันว่า เต่ามังกรเป็นบุตรลำดับที่ ๙ ของพญามังกรนั่นเอง ๔. หงส์ หงส์ตามความเชื่อแบบจีนนี้ไม่ใช่หงส์แบบที่เราคุ้นเคย แต่เป็นสัตว์เทพเจ้าที่เกิดมาจากการรวมตัวกันของนกหลากหลายสายพันธุ์ และเป็นสัญลักษณ์ของคุณงามความดี ๕ ประการ คือ คุณธรรม ความยุติธรรม ศีลธรรม มนุษยธรรม และสัจธรรม ลักษณะทางกายภาพของหงส์ประกอบขึ้นจากสัตว์ปีก ๕ ชนิด ได้แก่ หัวจากไก่ฟ้า, ปากจากนกแก้ว, ลำตัวจากเป็ดแมนดาริน, ขาจากนกกระสา และหางจากนกยูง ๕. ปี่เซียะ ถ้าเป็นตัวผู้จะเรียกว่า “ปี่” ตัวเมียจะเรียกว่า “เซียะ” ในบางพื้นที่จะเรียกปี่เซียะว่า “เทียนลก” เชื่อกันว่าปี่เซียะมีพลังในการกำราบสิ่งชั่วร้าย และเป็นสัญลักษณ์ของการค้าขายร่ำรวย ลักษณะทางกายภาพของปี่เซียะคือ เป็นสัตว์ ๔ เท้าที่มีรูปร่างและเขาคล้ายกวาง แต่มีใบหน้า หัว และขาคล้ายกับสิงห์ มีปีกเหมือนนก สันหลังคล้ายปลา ส่วนหางคล้ายแมว ท้องและส่วนหัวบางส่วนคล้ายกับมังกร เนื่องจากปี่เซียะเป็นสัตว์ที่กินเก่งแต่ไม่มีรูทวาร จึงไม่มีการขับถ่าย นั่นทำให้ปี่เซียะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย เปรียบเสมือนเงินทองที่ไหลเข้าแต่ไม่ไหลออก ตามคาสิโนที่เชื่อหลักฮวงจุ้ยแบบจีนจึงมักมีรูปปั้นปี่เซียะวางอยู่ด้านหน้า เพราะเชื่อว่าจะช่วยกักเก็บทรัพย์ไว้ได้ โดยการบูชาปี่เซียะนั้นควรบูชาเป็นคู่ (หมายถึงปี่เซียะ ไม่ใช่ผู้ที่บูชา) ที่มา อินเตอร์เน็ตขออภัยที่ไม่ได้บันทึกไว้ ขอบคุณมา ณ.ที่นี้ครับ ภาพกิเลนจากทีนิวส์ครับ

พญาครุฑ

ครุฑ (สันสกฤต: गरुड) เป็นสัตว์ในนิยายในประมวลเรื่องปรัมปราฮินดูและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคแ...