วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม(ตอนจบ)


พาหุงกาคืออะไร
     ถึงตอนนี้ผู้เขียนได้กราบนมัสการหลวงพ่อจรัญแล้วเรียนถามท่านขึ้นด้วยความสนใจว่า
     “พาหุงกาคืออะไรขอรับหลวงพ่อ”
     “อ๋อก็คือบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณพระธรรมคุณพระสังฆคุณ แล้วก็พรพาหุงอันเริ่มด้วยพาหุงสหัสไปจนถึงทุคคาหทิษฐิแล้วเรื่อยไปจนถึงมหาการุณิโกนาโถหิตายะและจบลงด้วยภะวะตุสัพ พะมังคะลัง  สัพพะพุทธา สัพพะธัมมา สัพพะสังฆา นุภาเวนะสะทาโสตถิภะวันตุเต”

ภาพจากเพจพญานาค

     อาตมาเรียกรวมกันว่าพาหุงกา อาตมาจึงเข้าใจในบัดนั้นเองว่าบทพาหุงนี้คือบทสวดมนต์ที่สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วได้ถวายให้พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้สวดเป็นประจำเวลาอยู่กับพระมหาราชวังและในระหว่างศึกสงครามจึงปรากฏว่าพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงรบ ณ ที่ใดทรงมีชัยชนะอยู่ตลอดเวลามิได้ทรงเพลี่ยงพล้ำเลยแม้จะเพียงลำพังสองพระองค์กับสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า ท่ามกลางกองทัพพม่าจำนวนนับแสนคนก็ทรงมีชัยชนะเหนือกองทัพพม่าทั้งแสนคนด้วยการกระทำยุทธหัตถีมีชัยเหนือพระมหาอุปราชา ณ ดอนเจดีย์ปูชนียสถาน แม้ข้าศึกจะยิงปืนไฟเข้าใส่พระองค์ในตอนที่เข้ากันพระศพของพระมหาอุปราชาออกไปราวกับห่าฝนก็มิปานแต่ก็มิได้ต้องพระองค์ด้วยเดชะพาหุงกาที่ทรงเจริญอยู่เป็นประจำนั่นเอง
    อาตมาพบนิมิตแล้วก็ไต่ขึ้นมาด้วยความสบายใจถึงปากปล่องที่ลงไปเกือบสามชั่วโมงเนื้อตัวมีแต่หยากใย่เดินลงมาแม่ชีเห็นเข้ายังร้องว่า หลวงตาเข้าไปในโพรงนั่นมาหรือแต่อาตมาไม่ตอบ”

ภาพจากผู้จัดการ

     ตั้งแต่นั้นมาอาตมาจึงสอนการสวดพาหุงกาให้แก้ญาติโยมเป็นต้นมา เพราะอะไรเพราพาหุงกานั้นเป็นบทสวดมนต์ที่มีค่าที่สุด มีผลดีที่สุดเพราะเป็นชัยชนะอย่างสูงสุดของพระบรมศาสดา จากพญาวัสวดีมาร จากอาฬวกะยักษ์ จากช้างนาฬาคิริง จากองคุลิมาล จากนางจิญมานวิกา จากสัจจะกะนิครนธ์ จากพญานันโทปนันทนาคราช และท่านท้าวผกาพรหม เป็นชัยชนะที่ทรงได้มาด้วยความบริสุทธิ์ด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมโดยแท้ ผู้ใดได้สวดไว้ประจำทุกวันจะมีชัยชนะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดกาลนาน มีสติระลึกได้จะตายก็ไปสู่สุขคติภูมิขอให้คุณโยมช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วยนะว่าให้สวดพาหุงกากันให้ทั่วหน้านอกจากจะคุ้มตัวแล้วยังคุ้มครอบครัวได้ สวดมาก ๆ เข้าสวดกันทั้งประเทศก็ทำให้ประเทศมีแต่ความรุ่งเรืองพวกคนพาลสันดานหยาบก็แพ้ภัยไปอย่างถ้วนหน้า

สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจาก tnews

     ไม่แต่พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่านั้นที่พบความมหัศจรรย์ของบทพาหุงกา แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ทรงพบเช่นกันโดยมีบันทึกโบราณบอกไว้ว่าดังนี้
     “เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตีเมืองจันทบุรีได้แล้วก็ทรงเห็นว่าสงครามกู้ชาติต่อจากนี้ไปจะต้องหนักหนาและยืดยาวจึงทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระยอดธงแบบศรีอยุธยาขึ้นแล้วนิมนต์พระเถราทั้งหลายมาสวดบทพาหุงกาบรรจุไว้ในองค์พระและพระองค์ก็ทรงเจริญรอยตามพระบาทสมเด็จพระนรศวรมหาราชด้วยการเจริญพาหุงกาเช่นกัน จึงทรงกู้ชาติได้สำเร็จ”
     โยมช่วยบอกญาติโยมด้วยนะว่าสวดพาหุงกากันให้ได้ทุกบ้านสวดให้ได้มาก ๆ จะมีแต่ความรุ่งเรือง สวดพาหุงก่อนแล้วจึงสวดชินบัญชรเพราะชินบัญชรนั้นเจ้าประคุณสมเด็จท่านให้สวดบูชาพระอรหันต์ของท่าน ต้องพาหุงกาก่อนแล้วจึงมาถึงชินบัญชรให้จดจำกันเอาไว้นั่นแหละมงคลในชีวิต
     หลวงพ่อจรัญได้พูดถึงเรื่องพาหุงกานี้อย่างละเอียดแล้วท่องให้ฟังด้วยเพราะท่านต้องการให้ผู้เขียนได้จดจำและเอาไปบอกต่อกับท่านผู้อ่านต่อไป

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจาก wikimapia

     ท่านผู้อ่านที่เคารพวัดอัมพวันเป็นดินแดนแห่งความสงบร่มเย็นด้วยอำนาจแห่งสติปัฏฐาน การเจริญภาวนา การเดินจงกลม การละเว้นสิ่งที่พึงลดพึงละพึงเว้นเป็นดินแดนแห่งธรรมะและการหลีกเร้นจากความวุ่นวายของโลกภายนอกเพื่อแสวงหาความสงบแห่งจิตใจ แต่การเข้าไปต้องด้วยศรัทธาอันน้อมนำเข้าไปไม่ใช่เพราะขัดพวกพ้องไม่ได้หรือเสียไม่ได้
     ประตูวัดอัมพวันเปิดต้อนรับผู้แสวงหามนุษย์สมบัติ ผู้ที่เป็นผู้เจริญด้วยสติปัญญาและการรู้จักคำว่าการคารวะและการเห็นสมณะเป็นอุดมมงคล หลวงพ่อจรัญท่านยินดีให้ธรรมะปฏิบัติและตอบข้อข้องใจในสิ่งที่เป็นไปเพื่อความเจริญแห่งชีวิตของผู้ถามและแก่ส่วนรวมทั่วไปและโปรดอย่าลืมคติของหลวงพ่อที่ว่า
     “มาได้ รอได้ ทนได้ พบได้ ได้ดี”
     มนุษย์สมบัตินั้นหลวงพ่อว่าแสวงหาได้ไม่ยากด้วยการภาวนาและการปฏิบัติกรรมฐานและสมาธิ แต่ท่านที่ต้องการแสวงหาทางไปนิพพานทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังบกพร่องยังไม่มีมนุษย์สมบัติละก็หลวงพ่อจรัญท่านว่า

จากหนังสือมหัศจรรย์ฉบับที่ 728 โดยดอน เจดีย์ชัย

หมายเหตุ สำหรับคาถาพาหุงมหากา หรือชัยมงคลคาถา หาดูได้ตามกูเกิลครับพิมพ์คำว่าคาถาพาหุงจะขึ้นมาเลยครับ ผมจึงไม่ได้ลงไว้ ขอบคุณครับ

วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อจรัญ (ตอน 6)


เมื่ออาตมาได้พบกับสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว

     คืนวันหนึ่งอาตมานอนหลับแล้วฝันไปว่า อาตมาได้เดินไปในสถานที่แห่งหนึ่งได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งครองจีวรคร่ำสมณสารูปเรียบร้อยน่าเลื่อมใสอาตมาเห็นว่าเป็นพระอาวุโสผู้รัตตัญญูจึงน้อมนมัสการท่าน ท่านหยุดยืนตรงหน้าอาตมาแล้วกล่าวกับอาตมาว่า
     “ฉันคือสมเด็จพระวันรัตน์วัดป่าแก้วแห่งกรุงศรีอยุธยา ฉันต้องการให้เธอได้ไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล เพื่อดูจารึกที่ฉันได้จารึกถวายพระเกียรติแก่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชผู้เป็นเจ้าเนื่องในวาระที่สร้างที่สร้างพระเจดีย์ฉลองชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาแห่งพม่าและประกาศความเป็นอิสระของประเทศไทยจากหงสาวดีเป็นครั้งแรก เธอไปดูไว้แล้วจดจำมาเผยแพร่ออกไป ถึงเวลาที่เธอจะได้รับรู้แล้ว”

ภาพเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคลจาก thailand temple

     ในฝันอาตมารับปากท่านท่านก็บอกตำแหน่งให้แล้วก็ตกใจตื่นตอนใกล้รุ่งอาตมาก็ทบทวนความฝันก็นึกอยู่ในใจว่าเราเองนั้นกำหนดจิตด้วยกรรมฐานมีสติอยู่เสมอเรื่องฝันฟุ้งซ่านเป็นไม่มี อาตมาก็ได้ข่าวในวันนั้นแหละว่า ทางกรมศิลปากรที่ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ใหญ่ในวัดใหญ่ชัยมงคลและจะทำการบรรจุบัวยอดพระเจดีย์อันเป็นนิมิตรหมายการสิ้นสุดการบูรณะ แล้วจะรื้อนั่งร้านทั้งหมดออกเสร็จสิ้น
     อาตมาจึงได้ขอร้องคุณกิ่งแก้ว อรรถากร ให้เลื่อนการปิดยอดบัวไปอีกวันหนึ่งเพื่อที่อาตมาจะได้นำพระซุ้มเสมาชัย ซุ้มเสมาของที่อาตมาได้สร้างขึ้นตามแบบดั้งเดิมที่พบในเจดีย์ใหญ่ใกล้กับวัดอัมพวันซึ่งพังลงน้ำ ที่ก๋งเหล็งเป็นคนรวบรวมเอามาให้อาตมาตั้งแต่เมื่อเริ่มมาพัฒนาวัดใหม่ ๆ แต่แตกหักผุพังทั้งนั้นหลายสิบปี๊บ อาตมาได้ป่นเอามาผสมสร้างปั้นองค์พระใหม่ไปร่วมบรรจุไว้ที่ยอดพระเจดีย์บ้าง

ภาพวาดสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วทางซ้าย เจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคลและหลวงพ่อจรัญทางขวา จากtnews

     วันนั้นอาตมาเดินทางไปถึงก็ได้เดินขึ้นไปบนเจดีย์ตอนที่สุดบันไดแล้วมองเห็นโพรงที่ทางเขาทำไว้สำหรับลงไปด้านล่างมีร้านไม้พอไต่ลงไปภายในตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่าลงไปคราวนี้ ถ้าพลาดตกลงไปจากนั่งร้านม้า ก็ยอมตายคนที่ร่วมเดินทางมาเขามัวแต่ไปบนลานชั้นบน อาตมาก็ดิ่งลงไปชั้นล่างไฟฉายดวงหนึ่ง เวลานั้นประมาณ 9.00น. อาตมาลงไปภายในแล้วก็พบนิมิตดังที่สมเด็จพระพนรัตน์ได้บอกไว้จริง ๆ
     อาตมาจึงได้พบว่าแท้ที่จริงแล้วสิ่งที่สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วท่านได้จารึกถวายพระพรก็คือบทสวดที่เรียกกันว่า พาหุงกา
     ท้ายของนิมิตนั้นระบุว่า “เราสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว ศรีอโยธเยศ คือผู้จารึกนิมิตและแปลเอาไว้ถวายพระพรแด่มหาบพิตรเจ้าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” (ติดตามตอนจบครั้งหน้าครับ)

จากหนังสือมหัศจรรย์ฉบับที่ 728 โดยดอน เจดีย์ชัย

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อจรัญ (ตอน 5)


เทวดากับการสวดมนต์

     ผู้เขียนได้นมัสการเรียนถามหลวงพ่อจรัญด้วยความสงสัย เพราะหลวงพ่อได้กล่าวถึงเทวดาไว้หลายตอนด้วยกัน
     “หลวงพ่อครับกระผมอยากทราบความคิดเห็นของหลวงพ่อที่มีต่อเทวดาที่เขาสวดชุมนุมเทวดานั้นจะมีจริงหรือไม่”
     หลวงพ่อจรัญท่านตอบในทันทีว่า “อาตมาเชื่อ ทำไมจึงเชื่ออาตมาจะเล่าให้ฟัง”
     แต่เดิมมานั้นอาตมาไม่เคยเชื่อเรื่องเทวดาเพราะอาตมาไม่เคยสัมผัสนี่แล้วอาตมาจะไปเชื่ออย่างไร แต่เมื่อแม่ชีก้อนทอง ปานเณร อายุ 87 ปี มาบอกกับอาตมาว่าเทวดามาสอนสวดมนต์
     แม่ชีมาเรียนกรรมฐานอาตมาสอนให้เดินจงกลมให้พิจารณาเห็นหนอ แต่แม่ชีเดินจงกลมแล้วไปคิดถึงเทวดาไปเพ่งเทวดาเข้า เทวดาก็มาแกก็เก็บเงียบไว้แต่แล้วในที่สุดแกก็เก็บไม่ไหวต้องการให้มีใครสักคนได้รับรู้เอาไว้แกจึงมาถามอาตมาว่า
     “หลวงพ่อดิฉันเห็นเทวดาเจ้าคะ มาสอนสวดมนต์ให้ด้วยเจ้าคะ”
     “เทวดา เทวแดที่ไหนกันแม่ชีเอ๊ยอาตมาไม่เชื่อหรอกอย่ามาทำให้อาตมาเสียเวลาเปล่า ๆ เลย”
     แต่แม่ชีก็ว่าไม่ได้โกหกอาตมาก็ถามว่า เทวดานะมาตอนไหนเล่า แม่ชีก็บอกว่า
     “พอดิฉันได้ยินนาฬิกาตี 12 ทีเป็นเวลาเที่ยงคืนเทวดาก็ปรากฏให้ดิฉันเห็น ไม่ได้มาเปล่านะคะมาสอนให้ดิฉันสวดมนต์บทเมตตาใหญ่ ดิฉันก็จึงสวดได้”
     อาตมาก็บอกให้แม่ชีไปถามเทวดาว่าอยู่ที่ไหนวันรุ่งขึ้นแม่ชีก็มาเล่าให้ฟังว่า


ขอบคุณภาพจากเว็บไซด์ธรรมะไทย

     เทวดาอยู่ที่ต้นพิกุล ต้นพิกุลที่ว่านี้อาตมาถามผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ เช่นหลวงสมาน วรรณกิจ อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ซึ่งได้มาที่นี่ ในตอนที่แม่ชีเห็นเทวดาประมาณ พ.ศ.2500 หลวงสมานว่าอายุกว่า 1000 ปี เทวดาบอกแม่ชีว่าเดินอยู่ข้างบนสวรรค์แล้วละเมิดกฎต่อนางฟ้าจึงถูกให้ลงมาอาศัยวิมานต้นพิกุลอยู่จนกว่าจะหมดกรรม แล้วก็บอกวันเวลาเอาไว้ชัดเจน อาตมาก็จดไว้แล้วก็เป็นจริง พอถึงเวลาก็เหมือนที่เทวดาให้สังเกตสังกา
     อาตมาก็ให้แม่ชีไปถามเทวดาว่า ไปชวนมนุษย์สวดมนต์ทุกบ้านหรือไม่เพราะอาตมาเริ่มจะเชื่อเพราะบทเมตตาใหญ่ที่แม่ชีสวดนี่อาตมาไปหาที่ไหน ๆ ก็ไม่เจอจนกระทั่งไม่รู้ว่าสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์ได้นำเอาไปต่อท้ายพุทธมนต์พุทธาภิเษก และตำรับนั้นไปตกอยู่กับพรพครูลมูลวัดสุทัศน์ฯ พระครูลมูลนี่เป็นศิษย์สมเด็จพระสังราชแพนะ ทำสมเด็จเนื้อผงดีมากนะ มีละก็เก็บกันเอาไว้ให้ดีเชียว
     อาตมาไปขอตำรับมาตรวจสอบที่วัดท่านพระครูลมูลบอกว่าไม่ได้ ๆ ตำรับนี้ของอาจารย์อาตมาให้ใครยืมไม่ได้ อาตมาก็บอกว่าไม่ได้เอาไปเลยแต่จะเอาไปสอบทานอะไรหน่อย แล้วก็เล่าความจริงให้ท่านฟังท่านก็ใจอ่อนบอกว่า เอ้าเอาไปเถอะให้ยืมเจ็ดวันแล้วเอามาส่งคืนนะ อาตมาก็เอามาเป็นตัวขอมทั้งนั้น อาตมาก็บอกแม่ชีว่ามาท่องให้อาตมาฟังหน่อยแม่ชีก็เริ่มท่อง แกก็อายุ 87 แล้วนี่นะ ก็ยานคางกว่าจะหลุดออกมาได้ตามประสาคนแก่
     โยมเชื่อไหมละว่าแม่ชีก้อนทองคนนี้เป็นคนไม่รู้หนังสืออ่านหนังสือไม่ออก ตัวขอมยิ่งไม่กระดิกใหญ่แล้วเมตตาใหญ่ที่แกท่องอาตมาก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แกท่องด้วยความมั่นใจ อาตมาสอบกับต้นฉบับขอมของท่านพระครูลมูลปรากฏว่าไงรู้ไหมโยม


ขอบคุณภาพจากมติชน


     “ตั้งแต่ตัวแรกจนตัวสุดท้ายไม่ผิดเลย”
     อาตมาถามว่าเทวดาไปชวนคนสวดมนต์ทุกบ้านหรือเปล่าเทวดาบอกกับแม่ชีมาว่า
     “เปล่าบ้านไหนจัดที่บูชามีโต๊ะหมู่มีพระพุทธรูปตั้งไว้แล้วเจ้าของบ้านสวดมนต์เทวดาก็มาร่วมสวดมนต์ด้วย พระพุทธรูปเปล่า ๆ ที่ไม่ได้เข้าพิธีอะไรเช่าบูชามาจากเสาชิงช้าหากเจ้าของบ้านเอามาตั้งแล้วสวดมนต์ไหว้พระทุกวันด้วยใจศรัทธาเทวดามาสวดมนต์หนักเข้าก็เลยเข้าสิงรักษาองค์พระเอาไว้ก็เลยศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ทำให้เกิดสิริมงคลในครัวเรือน”
     หลวงพ่อพระพุทธโสธรนั้นคนกราบไหว้บูชากันมากเลยมีเทวดามารักษา 16 องค์ ทำให้เกิดอภินิหารนานาประการ พระพุทธรูปสำคัญ ๆ ก็มีเทวดารักษาทั้งนั้นแหละ
     เทวดาท่านว่าอย่างนั้นและเทวดาก็ว่าบ้านไหนมีพระพุทธรูปแต่ตั้งโชว์เทวดาก็ไม่ไปสวดมนต์เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยทำวัตรสวดมนต์เทวดาก็ไม่มาผ่านเลยไปเลยมาไม่ลงมาสวดมนต์ คนเราก็มีเทวดารักษาคนดีมีศีลธรรมเทวดาที่ป็นบัณฑิตรักษา ถ้าคนชั่วขี้เหล้าเมายาทำชั่วเทวดาพาลพวกมิจฉาทิษฐิก็มารักษา
     อาตมาถามต่อไปว่าแล้วเวลาพระสัคเคกาเมจะรูเปเทวดาลงมาหรือไม่ เทวดาว่ารีบลงมาเทวดาบัณฑิตมาก่อนพอเห็นเจ้าภาพกินเหล้าเมาหง่ำกันในงานบุญก็เบ้หน้าแล้วกลับไม่ลงมาเทวดาพาลก็เข้ามาแทนที่เลยเกิดเรื่องเกิดราวกันตูมตามนั่นแหละ

จากหนังสือมหัศจรรย์ฉบับที่ 728 โดยดอน เจดีย์ชัย

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อจรัญ (ตอน 4)


ชมบ้านคนอื่นแต่ไม่ตื่นในบ้านตน

     หลวงพ่อจรัญท่านได้กล่าวต่อไปอีกว่า ผู้คนพากันไปชมบุญหลวงปู่หลวงพ่อต่าง ๆ ไปหาหลวงปู่แหวน ไปชมบุญบารมีแต่แล้วตัวเองกลับไม่ได้ใส่ใจเอาอย่างท่าน เหมือนกับคนไปเที่ยวได้ดูผลไม้ในสวนที่คนอื่นเขาปลูกจนดกมีสีสันและกลิ่นรสน่ารับประทานก็ยืนดูอย่างนั้นแล้วก็ไม่ได้อะไร ไปชมแล้วดูแล้วต้องกลับมาปลูกต้นมะม่วงนั้นที่บ้านให้เหมือนกับท่าน ท่านสอนท่านให้แนวธรรมะเอามาปฏิบัติแล้วให้ตัวเองมีกุศล

ขอบคุณภาพจากเพจพญานาค

     ไม่ใช่ว่าบ้านคนอื่นเขากวาดไว้สวยงามจัดโน่นแต่งนี่สวย ไปเห็นก็บอกว่าอู๊ยสวยจริงแต่บ้านตัวเองกลับรกรุงรังหยากใย่เต็มไปหมด โยมเอ๊ยจะไปสวรรค์ไปนิพพานกันน้ำลายไหลยืดเหมือนไปดูบ้านคนอื่นแล้วบ้านตนเองเล่า ร่างกายของตัวเองนะทำดีหรือยังมีศีลธรรมหรือเปล่า ได้ปฏิบัติกรรมฐานได้เจริญภาวนาให้ถูกทางบ้างหรือไม่ มีแต่กิเลสอย่างหยาบเต็มไปหมด แล้วจะไปสวรรค์ไปนิพพานได้อย่างไรกัน จัดบ้านคือตัวของตัวเองให้สะอาดแล้วก็จึงจะไปนิพพานไปสวรรค์ ก่อนไปต้องเจริญมนุษย์สมบัติให้เต็มก่อน

จากหนังสือมหัศจรรย์ฉบับที่ 728 โดยดอน เจดีย์ชัย

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อจรัญ (ตอน 3)


 รำลึกถึงความหลัง   

     ผู้เขียนได้ย้อนความไปถึงเมื่อหลวงพ่อพบกับอุบัติเหตุครั้งร้ายแรง หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ท่านได้กรุณารื้อฟื้นความทรงจำว่า อาตมาจำได้ว่าเมื่ออาตมาปฏิบัติกรรมฐานและเดินจงกลม ก้าวย่างหนอ เห็นหนอ ยืนหนอ เดินหนอ ตั้งแต่เริ่มต้นที่ศูนย์จนก้าวหน้าไปด้วยปัญญา การปฏิบัตินั้นอาตมาปฏิบัติมาถึง 10 ปีเต็ม ๆ แล้วปัญญาก็บอกกับอาตมาว่า
     คุณจะต้องมรณภาพนะอีกหกเดือน อาตมาก็ดิ่งลึกเข้าไปก็พบอีกว่าคุณจะต้องประสบอุบัติเหตุอย่างร้ายแรง แล้วคอต้องหัก และมันร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยพบมา แล้วก็รู้ในปัญญาอีกว่าจะประคองชีวิตไว้อย่างไร
     อาตมาจึงสั่งเสียพระที่วัดว่าอาตมาจะต้องตายในอีกหกเดือน อาตมาสั่งเสียกิจการทั้งหลายเอาไว้เพื่อความไม่ประมาท อาตมาก็ไปพบอุบัติเหตุเข้าตรงกับวันเวลาที่ได้กำหนดรู้ด้วยปัญญาคือวันที่ 14 ตุลาคมเวลาเที่ยงสี่สิบห้าจะต้องคอหักแล้วไม่ได้กลับมาแน่ พอถึงเวลาจริง ๆ ก็เจอเข้าตูมเบ้อเร่อ


ขอบคุณภาพจากเพจพญานาค

     ตอนที่รู้ล่วงหน้านั้นปัญญายังได้บอกอีกว่ากรรมนี้เพราะไปหักคอนกที่ตอนยิงนก ที่อาตมาได้ถ่ายภาพไว้ในหอประชุมเมื่อตอนอาตมาอยู่ ม. 3 ก็เหมือนที่อาตมาเคยเล่าไว้นั่นแหละว่า คนเขาไปดูศพของอาตมาเพราะจากการที่กระดูกคอหักหนังหัวถลอกลงมาอย่างนั้นรอดยาก หมอเองก็บอกว่าตายแต่ปัญญาที่เราได้สะสมไว้จากการนั่งกรรมฐานและจงกลมด้วยเกษาโลมานักขาทันตาตะโจนั้นแหละบอกให้เราหายใจและเอาชนะความเจ็บปวดและความแตกร้าวทางร่างกายมาได้
     อาตมาขอฝากโยมไว้ข้อหนึ่งว่ากรรมฐานคือการหยั่งรู้คือการเจริญภาวนาให้มีสติทุกย่างก้าว ให้รู้ว่าเรากำลังทำอะไร เช่นเดินหนอ เห็นหนอ ได้ยินหนอ โกธรหนอ พอโกธรหนอนี่ต้องรีบถอนทิ้งเลยอย่าให้โกธรหนอตั้งแต่วันนี้ไปถึงวันพรุ่งนี้ไม่เอานะ บวชชีพราหมณ์โกธรกันตั้งแต่ก่อนบวชพราหมณ์พอออกจากบวชแล้วก็ยังโกธรอยู่อย่างนี้ ที่นี่สอนแบบใช้สติ

จากหนังสือมหัศจรรย์ฉบับที่ 728 โดยดอน เจดีย์ชัย

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อจรัญ (ตอน 2)

        หลวงพ่อจรัญได้ฝากมายังบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองบุตรหลานทั้งหลายว่า "เจริญพรเวลานี้อาตมาสอนเด็กหัวจุกหัวเปียเป็นส่วนใหญ่ให้สวดมนต์ไหว้พระ ท่านผู้เป็นพ่อแม่ก็ควรฝึกลูกหลานให้รู้จักสวดมนต์แต่เล็ก ๆ อย่ารีรอให้โตเพราะอาตมามีหลักว่านกที่อยู่ในกรงนั้นสอนง่ายกว่านกที่หลุดออกนอกกรงนอกจากสอนไม่ได้แล้วยังเถียงอีกด้วยนี่มันเจ็บตรงนี้ สำคัญตรงนี้ เขายังสอนเด็กให้เขาสวดมนต์ท่องนะโมอิติปิโสถึงสุปฏิปันโนแล้วจะได้อะไร อาตมาจะบอกให้
     1.มีระเบียบวินัยในตัวเอง เห็นพระสงฆ์ยกมือไหว้เองไหว้สวยด้วย เห็นคนเฒ่าคนแก่ก็ยกมือไหว้
     2.รู้จักการเชื่อฟังพ่อแม่ผู้ใหญ่ไม่เถียงหรือขึ้นเสียง
     3.รู้จักฐานะของตนเองได้อย่างดีว่าอยู่ในฐานะอะไร วางตัวได้เหมาะสมที่สุด รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ยำเกรงความมีอาวุโส ไปลามาไหว้
     4.เมื่อโตขึ้นก็รู้จักครองตัวเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรมไม่เหลวแหลกในชีวิต ไปเมืองนอกเมืองนาคนเดียวไม่ต้องมีใครดูแลเขารู้จักดูแลตัวเองได้

ขอบคุณภาพจากเว็บไซด์ธรรมะดีดอทคอม

     อย่าเลี้ยงลูกให้โตเป็นต้นตาลยอดสูงโด่เด่แต่ไม่มีฐานรากแก้วอะไรเลย มีแต่รากฝอย อาตมาขอฝากโยมช่วยบอกไปยังพ่อแม่ทั้งหลายด้วย ช่วยกันสร้างเยาชนที่มีพระในใจไม่งั้นประเทศชาติจะเดือดร้อน เพราะเยาชนรุ่นที่จะโตขึ้นไปปกครองบ้านเมืองจะเป็นคนที่ขาดศีลธรรมไม่มีคุณภาพในตัวเองทำแต่ความชั่ว อันนี้อาตมาเป็นห่วงอันตรายเหลือเกิน โยมอาตมาขอฝากไปด้วย"

ข้อมูลจากหนังสือมหัศจรรย์ ฉบับ 728 โดยดอน เจดีย์ชัย








วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

เอาคุณพระมาใส่ตัวไม่กลัวภัย
     หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ท่านเป็นพระที่มีเมตตาต่อคนทั่วไปและเป็นพระผู้มีแนวคิดอันน่าฟังน่าศึกษาและน่าจะนำมาปฏิบัติ ข้อหนึ่งก็คือ สิ่งที่ท่านได้บอกกับผู้เขียนว่า
     "เจริญพรขอให้โยมช่วยบอกชาวพุทธเราทั่ว ๆ ไปนะว่า คนเรานั้นกลัวเคราะห์หามยามร้าย กลัวโชคร้ายและกลัวภัยต่าง ๆ แล้วก็เที่ยวได้ไปให้อาจารย์โน้นต่อชะตา ให้อาจารย์นี้ตัดกรรม แต่ละเลยไม่ยอมเอาคุณพระมาเข้าตัวเองนี่มันผิดหลัก"

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
ภาพจากบ้านผมเอง(กฤษฎา)

       "เอาพระมาเข้าตัวอย่างไรขอรับหลวงพ่อ"
       "ง่ายมากโยมก็หมั่นสวดมนต์ไหว้พระซีโยม สวดอิติปิโสภะคะวา สวากขาโต สุปฏิปันโน สวดเข้าไว้ มีเวลาก็สวดให้ได้ทุกวันระลึกถึงคุณพระเอาไว้ พาหุงสหัสทั้งบท สวดเข้าไปซีทำไมไม่สวด ไปสะเดาะเคราะห์ต่ออายุกันเข้าไปแล้วไม่ได้มาสวดมนต์ไหว้พระ อาตมาไม่ได้เอาเท็จมาพูด ไปสวดมนต์บ้านหนึ่งคนแก่คนเฒ่ามีกันอยู่มากมาย จะหาใครอาราธนาศีลอาราธนาพระปริตไม่ได้เลย อาตมาก็ขัดใจว่าทำไมหนออยู่กันมาตั้งอายุก็มากไม่ใส่ใจกันเลย ก็พอดีเห็นเด็กคนหนึ่งอยู่ในงานนั้นแหละอาตมาก็บอกว่า
       "อ้ายหนูอาราธนาศีลได้ไหม อาราธนาพระปริตได้ไหม"
       "ได้ครับ ผมทำได้เพราะผมเรียนโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ครับ"
       เป็นอันว่าผู้ใหญ่หัวหงอกทั้งบ้านสู้เด็กเมื่อวานซืนไม่ได้ การสวดมนต์ถวายพรพระนั้นท่านให้ทำด้วยจิตศรัทธา ไม่ใช่ต้องบังคับ ต้องให้เอาช้างมาฉุดเอารถไปลาก อย่างนี้ทำก็ไม่ได้ผลแต่ถ้าทำด้วยศรัทธาละก็อาตมากล้ารับประกันว่า

ภาพนี้สังเกตุผิวกายของท่านจะผ่องใส่ ผิวกายละเอียดมาก ย่อมหมายถึงผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ก็มีผิวกายเช่นนี้อีกรูปหนึ่งครับ เท่าที่ผม(กฤษฎา)สังเกตุเห็น

       สวดพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วสวดพาหุงสหัสจนถึงมหาการุณิโก จากนั้นสวดอิติปิโสภะคะวา ถึง พุทโธภะคะวาติเพียงบทเดียว สวดอย่างไร อายุเท่าใดก็สวดเกินกว่าอายุ 1 จบ หมายความว่า ถ้าอายุครบเบญจเพศ 25 กลัวจะเกิดเคราะห์ ก็สวดเสีย 26 จบ สวดทุกวันอย่าให้ขาดนะรับรองพ้นเคราะห์ แต่ถ้าถึงที่ตายจริงนะโยมแม้จะตายก็จะตายด้วยอาการอันสงบและไปสู่สุขคติภูมิแน่นอน ไม่ใช่อายุ 25 แล้วไปต่ออายุแต่ไม่สวดมนต์เลยอย่างนี้ก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน" (ติดตามตอนต่อไปครับ)

ขอบคุณข้อมูล จากหนังสือมหัศจรรย์ฉบับที่ 728โดย ดอน เจดีย์ชัย
       








พญาครุฑ

ครุฑ (สันสกฤต: गरुड) เป็นสัตว์ในนิยายในประมวลเรื่องปรัมปราฮินดูและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคแ...