นิรยภูมิ
หรือโลกนรกนี้ นอกจากจะมีมหานรก อุสสุทนรก และยมโลกดังกล่าวมาแล้ว
ยังมีนรกขุมพิเศษอีกขุมหนึ่งซึ่งมีนามว่า โลกันตนรก อันว่าโลกันตนรกนี้เป็นขุมยิ่งใหญ่
แปละประหลาดกว่าบรรดาขุมนรกทั้งหลายเพราะอยู่ภายนอกจักรวาล
สถานที่ตั้งของโลกันตนรกนี้อยู่ในจักรวาล ๓ โลก
ถ้าจะเปรียบให้เห็นเป็นมโนภาพก็เหมือนกับเอาดอกปทุมชาติ ๓ ดอกมาตั้งชิดติดกัน
ก็จะเกิดมีช่องว่างขึ้นในตอนกลางจักรวาล ต่าง ๆ ก็ตั้งชิดติดกันเช่นกับดอกปทุมชาติ
๓ ดอกนั้น
ตรงช่องว่างเว้นอยู่ในระหว่าง
๓ โลกจักรวาลนั้นเอง เป็นสถานที่ตั้งแห่งนรกขุมพิเศษนี้ เพราะฉะนั้น
นรกขุมพิเศษนี้จึงมีชื่อว่า โลกันตนรก = นรกขุมนี้พิเศษอันอยู่สุดโลกจักรวาล
ก็ในโลกันตนรกนี้
มีสถาพมืดสนิท แสงดาวแสงเดือนและแสงตะวันส่องไปไม่ถึง เป็นสถานที่อันมืดมนนอนธการ
เปรียบปานเช่นกับคนหลับตาในคราวเดือนดับข้างแรมฉะนั้น
สัตว์ที่ไปอุบัติเกิดในโลกันนรกนี้
ย่อมมีสภาพแปลกประหลาดพิลึก คือ มีสรีระร่างกายโตใหญ่เป็นยิ่งนักปานภูเขาใหญ่
ประกอบไปด้วยเล็บมือและเล็บเท้ายาวเหลือประมาณ
ต้องใช้เล็บมือและเท้าเกาะอยู่ตามเชิงเขาจักรวาลห้อยโหนโยนตัว
โดยเอาหัวปักลงมาข้างล้างชั่วนิรันดร์
เปรียบปานดังค้างคาวห้อยหัวอยู่บนกิ่งไม้ในมนุษย์โลกที่เราเห็นนี้ฉะนั้น
ครั้นเขาได้ประสบการณ์อันแสนจะทรมานด้วยความมืดมากเช่นนี้
เขาก็ได้เแต่รำพึงรำพันอยู่ในใจว่า
“อโห ! กรรม ...อโห กรรม....ทำไมตูจึงเป็นอย่างนี้ และ ทำไมตูจึงมาอยู่ที่นี่
ชะรอยที่นี่จักมีแต่เพียงตูเพียงผู้เดียวกระมังหนา”
เขาไม่ได้อยู่แต่เพียงผู้เดียวดอก
มีอยู่มากมายที่สัตว์บุคคลทั้งหลายตายแล้วไปเกิดที่มันมืดแสนมืด
มองไม่เห็นเพื่อนสัตว์นรกโลกันตนรกด้วยกัน และมองไม่เห็นอะไรเลยนั้นเอง
ตลอดเวลาเหล่าสัตว์นรกโลกันตนรกไม่ต้องทำอะไร
มีแต่จะห้อยโหนโยนตัวเปะปะด้วยความหิวโหยอย่างเหลือประมาณ
ครั้นปีนป่ายตะกายไปถูกต้องตีนมือแห่งกันและกันเข้าแล้ว
ก็สำคัญว่าตนมีชะตาผ่องแผ่วโชคดีเจออาหารซึ่งปรารถนาอยากจะกินมานาน
จึงต่างก็ดีเนื้อดีใจ
มิกิริยาขวนขวายไขว่คว้าฉวยจับกันและกันแม้กระทั่งกัดกินแขนของตนเอง
โดยต่างตนต่างก็จะตะครุบกันกินเป็นอาหาร
ต่างก็ปล้ำฟัดกันเพื่อจะจับกินเป็นภักษาหารอยู่อย่างนี้
ในไม่ช้าก็เผลอปล่อยมือและเท้าที่ใช้เกาะเชิงชายภูเขาจักรวาลนั้นเลยกันดำดิ่งนรกพลัดตกลงไปเบื้องล้าง
โดยลักษณะการมีหัวปักดินลงมาและมีตีนชีฟ้า ลอยละลิ้วลงมาอย่างน่าหวาดเสียว
สถานที่เบื้องล่างที่เขาพากันพลัดตกลงมานั้นมันไม่ใช่เป็นพื้นที่ธรรมดาโดยที่แท้เป็นทะเลนำกรดอันเย็นยะเยือก
ซึ่งมีความเย็นอย่างร้ายกาจยิ่งนักครั้นเขากอดคอกันพลัดตกลมา
พอถึงพื้นน้ำกรดนั้นแล้ว
บัดเดี๋ยวใจตัวตนร่างกายของเขาก็เปื่อยพังแหลกลาญลงอย่างไม่มีชิ้นดี
ทั้งนี้ก็เพราะว่าถูกน้ำกรดนรกอันมีความเย็นอย่างร้ายกาจนั้นกัดเอาร่างกายอันใหญ่โตและเหม็นสาบเหม็นสางน่าเกลียดน่าชังของเขา
ถึงความเหลวแหลกละลายเพราะฤทธิ์น้ำกรดไปอย่างรวดเร็วประดุจดังก้อนอุจจาระที่ตกไปในน้ำ
ครั้นแล้วด้วยอำนาจกรรมบันดาล
เขาก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดมหัศจรรย์กลับเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาอย่างเก่า
ให้รู้สึกหนาวเย็นและเจ็บปวดอย่างลึกเป็นกำลัง
จึงรีบตะเกียกตะกายปีนป่ายขึ้นมาเกาะเชิงเขาจักรวาลด้วยความลำบากยากเย็น
แล้วก็ห้อยโหนโยนตัวแสวงหาอาหารด้วยความหิวโหยต่อไปอีกตามเดิม
ครั้นตะกายไปพบปะกันเข้า
ก็ตั้งหน้าตั้งตาแต่จะตะครุบกันกินด้วยความสำคัญผิดคิดว่าเป็นภักษาหาร แล้วก็กอดคอพากันพลัดตกลงไปในทะเลน้ำกรดเย็นกัดกินร่างกายอย่างทรมาน
และแล้วก็กลับเป็นขึ้นมามาตามเดิมอีก
พวกเขาเฝ้าเวียนรับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสอยู่เช่นนี้ไม่มีวันสิ้นสุด
โน่นแหละชั่วพุทธันดรหนึ่งนั้นแล จึงอาจจะพ้นทุกข์โทษไปจากขุมนรกโลกันต์นี้
แต่บางตนก็อาจหลายพุทธันดร
แม้โลกันตนรกจะเป็นนรกขุมใหญ่ที่มืดสนิทไม่มีแสงเลย
แต่จะมีแสงเกิดขึ้นแว้บหนึ่งทำให้สัตว์นรกมองเห็นกัน
จึงรู้ว่ามีสัตว์นรกอื่นอยู่ด้วยมากมายได้นั้นก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญ ๕
เหตุการณ์หรือ ๕ ครั้ง ได้แก่
๑.
เมื่อพระโพธิสัตว์ทรงปฏิสนธิในครร์ภ์พระมารดา
๒. เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติ
๓. เมื่อพระโพธิสัตว์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
๔.
เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเรื่องธัมมจักรกัปปวัตนสูตร (ธรรมจักร)
๕. เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จปรินิพพาน
ที่มา winnews.tv
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น