ปรากฏว่าพระเพลิงได้ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเผากุฏิชั้นบนที่ทำด้วยไม้สักเก่าแก่ทั้งหลังวอดวายจนหมดสิ้นเหลือแต่กุฏิชั้นล่างที่จำพรรษาของพระบวชใหม่ที่ทำด้วยปูนเท่านั้น
ในระหว่างที่เพลิงกำลังลุกไหม้อยู่นั้นได้มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงทราบข่าวไฟไหม้วัดระฆัง
ต่างก็ทยอยกันมามุงดูอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อที่จะรอให้พระเพลิงสงบจะได้เข้าไปค้นหาของมีค่ารวมทั้งพระสมเด็จของ
“พุฒาจารย์โต พรหมรังสี” ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าไฟไม่อาจที่จะทำอะไรได้อีกด้วย
ในขณะที่พระเพลิงยังไม่สงบดีปรากฏว่าได้มีชาวบ้านจำนวนมากที่มาออกันอยู่ที่บริเวณกุฏิไฟไหม้
ได้พากันเข้าไปขุดคุ้ยหาของมีค่าต่าง ๆจำนวนหลายร้อยคน
โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของเจ้าหน้าที่ ๆ ไประงับเหตุและพระลูกวัดแต่อย่างใด
บางคนที่รู้ข่าวถึงกับแห่กันเหมารถมาจากต่างจังหวัดก็มี
แต่ก็มีบางคนที่หัวใสเข้าไปค้นหาของมีค่าและพระต่าง ๆ ที่ไม่ถูกไฟไหม้นำมาขายต่อที่หน้าบริเวณกุฏิที่ถูกไฟไหม้สนนราคาก็ขึ้นอยู่กับพระต่าง
ๆ เช่น รูปเหมือนหลวงพ่อโต พรหมรังสี ที่เป็นกระดาษมีอายุร่วม 40 ปีราคา 50 บาท พระสมเด็จเนื้อผงราคาประมาณตั้งแต่ 200
ถึง 500 บาทขึ้นไป
แต่จุดที่ผู้คนสนใจกันมากเป็นพิเศษนั้นเห็นจะได้แก่บริเวณห้องที่เก็บพระบูชาของเจ้าอาวาสซึ่งมีพระพุทธรูปต่าง
ๆ มากมายตั้งอยู่ทางด้านปีกซ้ายของกุฏิห้องที่สอง
ปรากฏว่ามีพระพุทธรูปหลายองค์ได้ถูกอำนาจของพระเพลิงเผาผลาญไปจนหมดสิ้น
บางองค์ก็เหลือไม่เต็มองค์มีแต่รูปหล่อหลวงพ่อโต พรหมรังสี
และพระสมเด็จที่อยู่ในลังที่มีรูปหล่อของท่านนั่งอยู่
และรูปเหมือนที่เก็บเอาไว้อายุเกือบ 40 ปี ฤทธิ์ของพระเพลิงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้
ผู้คนที่ได้พบเห็นถึงกับมาขอเช่าไว้เพื่อบูชาแต่ก็ได้รับความผิดหวังกลับไป
เพราะพระครูโฆสิตสมณคุณผู้ช่วยท่านเจ้าอาวาสท่านไม่อนุญาติ
ติดตามตอนต่อไปจากหนังสือสมเด็จวัดระฆังพิเศษ
11 สุดยอดพระเครื่องตลอดกาลโดยเซียนพระสุดสัปดาห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น