![]() |
พระพุทธรูปเหล็กไหลวัดพุทไธสวรรค์(จากเว็บบอร์ดวัดโสมนัสฯ) |
เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนแปลงไปเหล็กไหลก็จะปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับภูมิประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่ เปลี่ยนทั้งรูปทรงและสีสันจึงเกิดเป็นเหล็กไหลหลายชนิดตามที่ไปพบเห็นและนำมันมาเก็บรักษาไว้แล้วตั้งชื่อให้
รูปพรรณสัณฐานของเหล็กไหลไม่แน่นอนตายตัว มันแยกตัวได้และส่วนที่หลุดออกมาเป็นออกมาเป็นอิสระนี้ก็จะค่อย ๆ แข็งตัวและคงรูปถาวรอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะมีคนไปแปรรูปมันเป็นอย่างอื่นไปอีก
ปกติแล้วเหล็กไหลจะอาศัยอยู่กับธาตุที่มีความแข็งแกร่ง โดยเข้ายึดเกาะ มักจะเกิดตัวอยู่กับหินที่มีแร่ธาตุเหล็กผสมอยู่ด้วยมากเป็นพิเศษ เพราะเหล็กไหลจะอาศัยธาตุเหล็กกินเป็นอาหาร แลัวมันก็จะ "คาย" หรือขับถ่ายเศษสิ่งที่เหลือออกมากลายเป็น "ขี้เหล็กไหล" ซึ่งจะไม่มีความแข็งแกร่งเหมือนกับตัวเหล็กไหลจริง ๆ
นอกจากธาตุเหล็กแล้ว เหล็กไหลยังชอบกินน้ำผึ้งอีกด้วย เหล็กไหลมีหลายชนิดหลายสีหลายรูปทรง แบ่งสีสันเป็นชนิดต่าง ๆ ได้ดังนี้
ชนิดสีดำ คือเหล็กไหลชนิดแรกตั้งเดิม เมื่อเกิดมีเหล็กไหลขึ้นมาในโลก มีฤทธิ์อำนาจในทางโลกียะมากที่สุด เพราะเทวดาที่เข้าไปครอบครองดูแลเป็นพวกเทวดามิจฉาทิฐิ จะมีบุญบารมีในทางธรรมน้อยกว่าเหล็กไหลทุก ๆ สี
ชนิดสีน้ำตาลอมแดง มีเทวดาจำพวกพญานาคเข้าไปดูแลรักษา จึงมีฤทธิ์มีอำนาจมาก ชอบใช้ฤทธิ์อำนาจในรูปของฌาณสมาบัติที่เรียกกันว่า "กสิณไฟ" เพื่อปรับอุณหภูมิให้แก่ตนเอง มีฤทธิ์อำนาจในการทำลายล้างพวกอวิชชา และ มนต์ดำ กันพวกภูตผีปีศาจได้
ชนิดสีท้องปลาไหล (สีน้ำตาลอ่อน) มีเทวดาพวกคนธรรพ์และเพชรพญาธรเป็นผู้ดูแลรักษา มีฤทธิ์อำนาจใกล้เคียงกับพญานาค ที่พิเศษกว่าก็คือสามารถลื่นไหลไปมาได้ กำบังกายได้ ส่วนใหญ่จะพบในป่าดงดิบซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าเพชรพญาธรและคนธรรพ์ มีฤทธิ์ไปในทางเมตตามหานิยม เรื่องของความรักและครอบครัว
ติดตามตอนต่อไป
อ้างอิงจากหนังสือเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์
เรียบเรียงโดย กฤษฎา ปาลีเรียม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น