 |
ภาพหยดน้ำฟ้าหรือวัชระธาตุ |
ชนิดเมฆพัด สีฟ้าอมดำเป็นเงามัน มีเทวดาชั้นเทพที่มีหิริโอตัปปะเป็นผู้ดูแลรักษา
มีฤทธิ์อำนาจในทางคงกระพันชาตรีและมหาอุด มีมากในท้องมหาสมุทร
สามารถเคลื่อนไหวไปตามกระแสน้ำขึ้นลงได้ ถ้าพบในถ้ำหรือตามป่าเขา
ก็มักจะอยู่ในที่มีน้ำไหลผ่านด้วยเสมอ เพราะเหล็กไหลชนิดนี้ชอบวิ่งเล่นไปตามกระแสน้ำ
หากมีเหตุเพทภัยมาถึงตัว ก็สามารถลื่นไหลหลบหลีกอันตรายได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว
เพราะชอบกินปรอทในน้ำเป็นอาหาร
 |
ภาพเหล็กไหลขาวหรือเหล็กเปียก |
ชนิดสีฟ้าอ่อนอมขาว มีเทวดาชั้นเทพพรหมเป็นผู้ดูแลรักษา
มีฤทธิ์อำนาจในการปรับอุณภูมิในสถานที่อยู่ให้เป็นไปตามที่ต้องการ
สามารถเรียกละอองน้ำจากภายนอกเข้ามาในบริเวณที่เหล็กไหลชนิดนี้อยู่
จึงมีฤทธิ์ช่วยให้พรางกายได้เหมือนล่องหนหายตัว พบมากในป่าดงดิบไม่ชอบความสว่าง
ความร้อนจากเปลวไฟและแสงอาทิตย์ กันฟ้าผ่าได้
 |
ภาพเหล็กไหลฤาษีพรรณขาวนวล |
ชนิดสีเขียวปีกแมลงทับ มีพระอริยเทพ
อริยพรหมชั้นสูงเป็นผู้ดูแลรักษา ชอบอยู่ในที่ ๆ มีอากาศเย็นจัด พบมากในถ้ำลึก ๆ
และอยู่สูงกว่าพื้นดินมาก ๆ
ผู้ที่จะเข้าไปค้นหาจนพบมักจะเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้ทรงคุณ
ซึ่งไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปค้นหาเหล็กไหล แต่เข้าไปเพื่ออาศัยความสงบวิเวกเพื่อบำเพ็ญเพียรภาวนา
และได้พบเห็นโดยบังเอิญ
 |
ภาพหยดน้ำฟ้าสีเงินยวง |
ชนิดสีเขียวอมขาว เหล็กไหลชนิดนี้มีบารมีธรรมอยู่ในตัวของมันชอบอยู่ในถ้ำตามป่าเขา
หรือในท้องทะเลลึก หรือในสถานที่ ๆ เคยเป็นทะเลมาในอดีต
 |
ภาพโคตรเหล็กไหล หรือรังเหล็กไหล |
ชนิดสีเงินยวง หรือขาวหม่น มีฤทธิ์ทางแคล้วคลาด
คงกระพันชาตรีล่องหนหายตัวได้ ดลจิตดลใจผู้เป็นเจ้าของให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมสร้างกุศล
เป็นเหล็กไหลที่พบหาได้ง่ายมากในที่ ๆ
มีอากาศเย็นจัดยิ่งมีหิมะปกคลุมอย่างบนภูเขาหิมาลัยในอินเดียยิ่งชอบอยู่
 |
ภาพเหล็กไหลตาแรดผ่านการเจียระไนอย่างงดงาม |
ชนิดสีขาวนวล เหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
ซึ่งถือเป็นสุดยอดของเหล็กไหล มักจะอยู่บนภูเขาสูง อยู่ได้ทั้งที่อากาศร้อนและหนาว
ส่วนใหญ่ผู้รู้มักจะนำเหล็กไหลชนิดนี้ไปไว้ในปูชะนีสถานทางพุทธศาสนา เช่นเก็บเอาไว้ในส่วนยอดของเจดีย์
เพื่อป้องกันฟ้าผ่าภัยพิบัตินานาประการ อันจะเกิดขึ้นกับคนหมู่มาก
หมายเหตุ (ภาพประกอบอาจไม่ตรงเนื้อเรื่องแต่ต้องการให้รู้จักไว้)
ติดตามตอนต่อไป
เรื่องและภาพ จากหนังสือเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น