4. เป็นผู้ใคร่ใฝ่ใจในการศึกษาอยู่ตลอดเวลา
มีหัวใจนักปราชญ์ที่เราเคยได้ยินกันมาแล้ว คือ สุ.จิ.ปุ.ลิ โดย สุ ย่อมาจาก สุตา
คือ การฟัง ถ้าเราฟังมากเราก็จะได้ความรู้มาก จิ ย่อมาจาก จินตนา คือ การคิด
เมื่อเราฟังมากเราคิดตามในสิ่งที่เราฟังเราก็จะได้เพิ่มพูนความรู้ความคิดของเราให้กว้างไกลยิ่งขึ้น
ปุ ย่อมาจาก ปุจฉา ก็คือ การถาม เมื่อเราฟังเราคิดตามแล้วก่อให้เกิดความเข้าใจ
หากมีปัญหาความไม่เข้าใจเราก็ไต่ถามผู้รู้ ผู้ให้ความรู้เรา ๆ
ก็จะมีความเข้าใจแจ่มแจ้งแทงตลอดไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไปก่อให้เกิดความรู้
ความคิดและแนวทางใหม่ ๆ อีกมากมาย ลิ ย่อมาจาก ลิขิต ก็คือการเขียน ๆ เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเรียนรู้ก่อนนำไปปฏิบัติ
การฟัง การคิดตาม และการไต่ถาม เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มพูนความรู้ การลิขิตหรือการเขียนก็เป็นการบันทึกกิจกรรมในการเรียนรู้เป็นตัวช่วยจำ
ลำพังแต่การฟังการคิดและการถามก็จะไม่ช่วยให้เราได้จำได้ดี เพราะความรู้ความคิดใหม่
ๆ จะเข้ามาสู่กระบวนการฟังการคิดและการถามอยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้เราลืมเลือนไปได้
ดังนั้นการเขียนจึงช่วยจำได้ดีที่สุดของการเรียนรู้
ระยะเวลาผ่านไปเราไม่แน่ใจเราก็สามารถมาเปิดดูทบทวนได้ ดังนั้นการฟังมาก การคิดตาม
การไต่ถาม และการบันทึก
จะช่วยทำให้ท่านมีความกระตือรือร้นในการศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา
การศึกษาอ่านจากตำรามาก ๆ
และการจดบันทึกเรื่องราวที่สำคัญที่เราสนใจไว้จะช่วยทำให้ท่านมีความรู้ดี
นอกจากนี้ในการศึกษาพระเครื่อง
ท่านผู้อ่านก็ควรจะศึกษาจากของจริงอยู่เสมอหมั่นไต่ถามผู้รู้ (ต้องเป็นผู้รู้จริง
ผู้รู้มั่วไม่เอา) ควรจะไปดูการประกวดพระอยู่เสมอหากมีโอกาส
เพื่อที่ท่านจะได้ดูว่าของแท้นั้นเป็นอย่างไร มีลักษณะเป็นแบบใด
จากหนังสือคเณศ์พร มิถุนายน 2540
โดยนิทธันต์ ติดตามตอนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น