สระน้ำในวัดสะพานสูงเดิมเป็นที่เลี้ยงตะพาบวัดและข้างหน้าวัดก็เป็นเขตอภัยทานไม่มีใครกล้าจับสัตว์น้ำ
แต่แล้วก็มีคนพิเรนพอที่จะจับเอาไปกิน โดยที่หลวงปู่เอี่ยมท่านไม่รู้
เขาก็เอาไปกินกันปรากฏว่าบางรายก็มีอาการถ่ายท้องกันเป็นโกลาหล บางบ้านก็อาเจียนกันแทบเป็นแทบตาย
จึงไม่ค่อยจะมีใครกล้า
มีอยู่รายหนึ่งปัจจุบันได้ล้มหายตายจากและลูกหลานได้ย้ายจากคลองพระอุดมไปแล้ว
ชื่ออะไรนั้นท่านผู้เล่าก็จำมิได้เสียแล้ว
กระทาชายรายนั้นชอบกินตะพาบและตะพาบก็ชุกชุมที่เขตวัดเสียด้วย
ตกดึกจึงแอบมาตกได้ตะพาบไปตัวถนัดอยาก หลังจากเชือดคอตะพาบแล้วก็กรีดเชิงเลาะเอาเนื้อออกมาแกงกับมะดัน
ด้วยความเกรงว่าจะมีอันเป็นไปจึงได้หาทางแก้เคล็ดด้วยการเอาแกงนั้นตักใส่ถ้วยเอาไว้ใส่บาตรให้หลวงปู่ฉัน
เมื่อหลวงปู่เอี่ยมได้จัดสำรับสำหรับฉัน
ท่านก็ตักภัตตาหารกินจนมาถึงถ้วยที่ใส่แกงตะพาบ
ท่านตักขึ้นมาแล้วทำจมูกฟุดฟิดเอาขึ้นมาดมด้วยความไม่แน่ใจ
พอดมกลิ่นได้เต็มที่ท่านก็วางช้อนลงนอกจานให้เด็กมายกเอาแกงถ้วยนั้นออกไปท่านได้กล่าวขึ้นมาลอย
ๆ ว่า
“แกงตะพาบที่เขาถวายมาน่ะ ใครฉันแล้ว ๆ
ไปใครยังไม่ได้ฉันเอาออกไปเสีย มันเป็นตะพาบของวัดเรานี่เอง
อ้ายพวกนี้มันจมูกไม่ดีจึงได้กล้าเอาของอย่างนี้มาถวายพระ”
ครอบครัวนั้นกินแกงตะพาบเข้าไปแล้วไม่มีอาการประหลาด
แต่อยู่ต่อมาไม่นานก็ป่วยเป็นริดสีดวงจมูกจนจมูกโหว่กันไปทั้งบ้านและด้วยความกลัวคำสาปของหลวงปู่เอี่ยมจึงได้พากันอพยพหลบหนีไปทำมาหากินที่อื่นเพื่อให้พ้นจากคำสาปอันอาถรรพ์นั้น
แต่เรื่องราวก็ยังคงพูดถึงกันอยู่ที่คลองพระอุดมจนทุกวันนี้
จากหนังสือฤทธิ์อภิญญาจิตเกจิอาจารย์
โดยประเจียดคงศาสตรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น