วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เหล็กไหลในลาว (ตอนที่ 6)

     เสร็จจากฉันเพลแล้ว พระอาจารย์ทั้ง 5 รวมทั้งสามเณรจันดีด้วย ก็ได้ร่วมกันสวด ยถาสัพพีฯ สวดคาถาชยันโตฯ สดุดี เทวดาตามธรรมเนียม จากนั้นพระอาจารย์วันนาก็ได้รดน้ำผึ้งเทใส่ถ้วยที่เตรียมมา มือซ้ายถือถ้วยน้ำผึ้ง ส่วนมือขวาถือเทียนชัยที่จุดไฟแล้ว เอาเทียนชัยไปลนตรงปุ่มเหล็กไหลสีดำมะเมื่อมที่เกาะอยู่ตรงผนังถ้ำ พร้อมกับท่องคาถาอัญเชิญเหล็กไหลตามตำรา
     ทันใดก็เกิดปฏิกิริยาเคลื่อนไหวที่ปุ่มเหล็กไหลนั้น คล้ายจะเยิ้มแยกขยายออก ลักษณะเป็นรูปร่างเหมือนหัวงู เป็นสีเขียว แดง ดำ อ้าปากกว้างเหมือนจะขู่ ทำให้พระทุกองค์ผงะตกตลึงไปตาม ๆ กัน อาจารย์วันนาจึงถือเทียนชัยออกมาจากปุ่มเหล็กไหล ภาพหัวงูก็หดกลับเข้าที่เดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูคล้ายภาพมายาหรือภาพหลอกลวงตาน่าพิศวง แต่เพื่อความแน่ใจ อาจารย์วันนาได้ทดลองดูอีก โดยใช้เทียนลนดูอีกถึง 2-3 ครั้ง เหล็กไหลนั้นก็แสดงปฏิกิริยาเยิ้มออกมาแปรสภาพเป็นหัวงู แยกเขี้ยวขู่คุกคามทุกครั้ง
     อาจารย์สมบูรณ์เริ่มใจกล้าเอาไม้แหย่ดู ก็ไม่เห็นเหล็กไหลกระดุกกระดิกแต่อย่างใด จึงเอาผ้าอาบน้ำฝนมาพับเข้ากับมือแล้วเอื้อมไปจับคลำดูที่ปุ่มเหล็กไหล ปรากฏว่าเหล็กไหลเย็นเหมือนน้ำแข็ง ความเย็นนั้นแล่นปราดถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว อาจารย์องค์อื่นเห็นเช่นนั้นก็ใจกล้า ขอทดลองเอามือจับดูบ้าง ก็มีความสุขตรงกันว่า เหล็กไหลเย็นเยือกเข้าถึงขั้วหัวใจน่าประหลาด
     เนื่องจากเทียนชัยที่ทำยังอ่อนตัวไม่แข็งดี จึงไม่สามารถจะทำพิธีกรรมตัดเอาเหล็กไหลได้ในวันนั้นจะต้องทิ้งให้เทียนชัยแข็งตัวสักคืนเสียก่อน จึงพากันออกจากถ้ากลับมายังบ้านหัวดงหรือดงน้อย ทำให้ชาวบ้านแปลกใจมากที่คณะพระธุดงค์ไม่ได้รับอันตราย เหตุที่ยังไม่ได้รับอันตรายก็เพราะว่า กรรมในการกระทำยังไม่เดินไปจนครบวงจรนั่นเอง เทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา จึงยังไม่ลงมือจัดการลงโทษขั้นเด็ดขาด รอจังหวะอยู่อย่างใจเย็น เปรียบประดุจพยัคฆ์ร้ายในป่ารอจ้องตะครุบเหยื่อ

ติดตามตอนต่อไป
จากหนังสือเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์โดยทีมงานเฉพาะกิจ
วิทยา ประทุมธารารัตน์ บรรณาธิการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พญาครุฑ

ครุฑ (สันสกฤต: गरुड) เป็นสัตว์ในนิยายในประมวลเรื่องปรัมปราฮินดูและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคแ...