ได้เกิดเสียงลั่นเปรี๊ยะ ๆ ครืน ๆ
ราวกับฟ้าร้องหน้าฝนตามมาด้วยเสียงเหมือนฟ้าผ่าดังกึกก้องสนั่นหวั่นไหว
มีประกายแสงสว่างเจิดจ้าจนนัยน์ตาพร่าพรายมองไม่เห็นอะไร แก้วหูสามเณรจันดีเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง
ๆ ไม่มีชิ้นดี
ต้นตะแบกและต้นตะเคียนที่ถูกสายใยเหล็กไหลพันไว้รอบนั้นล้มครืนลงราวกับโดนพายุใหญ่ถล่ม
เมื่อสามเณรจันดีสามารถปรับสายตาได้เป็นปกติในเวลาต่อมาก็พบว่าสายใยเหล็กไหลที่พันอยู่กับต้นไม้นั้นได้หายไปแล้ว
พบแต่ซากศพของพระอาจารย์สมบูรณ์นอนกลิ้งอยู่หน้าถ้ำในลักษณะอาการสยดสยอง
เหลือที่จะกล่าว คือแขนขาดทั้งสองข้างส่วนศีรษะไม่รู้ขาดกระเด็นไปทางไหน
เหลือแต่คอที่กุดด้วนแต่น่าพิศวงว่า ไม่มีเลือดไหลออกมาเลยสักหยดเดียว
เสียงระเบิดกึกก้องจนภูเขาควายทั้งลูกสั่นไหวนั้น ทีแรกสามเณรจันดีเข้าใจว่า
ถ้ำสระบัวถล่มลงแต่ไม่ใช่ เพราะถ้ำยังคงอยู่ในสภาพเดิม
แต่เสียงระเบิดดังกัมปนาทนั้นจะเกิดจากอะไรไม่ทราบได้
จึงวิ่งเข้าไปดูในถ้ำสระบัวจุดเทียนไขส่องดูก็ได้เห็นภาพสยดสยองเหมือนสภาพศพของพระอาจารย์สมบูรณ์คือ
พระอาจารย์นักตัดเหล็กไหลทั้ง 4 รูปนั้น
คอขาด ตัวขาด แขนขาด ซากศพกลิ้งอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ส่วนศีรษะนั้นขาดหายไปหมด
หาไม่พบแต่ที่น่าอัศจรรย์ก็คือทุกศพไม่มีเลือดไหลออกมาสักหยดเลย
คล้ายถูกสิ่งลึกลับอาถรรพณ์สูบเอาเลือดไปหมดสิ้น
พระอาจารย์ทั้ง 5 รูป
ได้ถูกเหล็กไหลในถ้ำสระบัวภูเขาควายสังหาร ผลาญชีวิตถึงแก่มรณภาพไปอย่างสยดสยอง สามเณรจันดีก็ขวัญหนีดีฝ่อ
ไม่สามารถควบคุมสติได้วิ่งเตลิดจีวรปลิวออกจากถ้ำสระบัวด้วยความกลัวสุดขีด
กว่าจะถึงหมู่บ้านหัวดงเพื่อบอกกล่าวให้ชาวบ้านได้รับรู้ก็ล้มลุกคลุกคลานมาแทบจะเอาชีวิตไม่รอด
ไม่เก่งจริงไม่มีบุญญาบารมีพอ
อย่าได้หาญกล้าไปเล่นกับเหล็กไหลเป็นอันขาด
แม้ได้มาแล้วจะจำหน่ายจ่ายแจกในราคาเป็นล้าน ๆ
ก็ไม่คุ้มกับที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับสิ่งที่เป็นกายสิทธิ์
เต็มไปด้วยอานุภาพฤทธิ์เดชอย่างนั้น
จากหนังสือเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์โดยทีมงานเฉพาะกิจ
วิทยา
ประทุมธารารัตน์ บรรณาธิการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น